“อนุทิน” รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามการดำเนินงานตามมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันและรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในจังหวัดสงขลา

          วันนี้ (14 ต.ค. 64) ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานตามมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดสงขลา หลังพบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีนายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 12 นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหาดใหญ่ และทีมแพทย์พยาบาล ร่วมให้การต้อนรับและรายงานผลการปฏิบัติงาน

          นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ เพื่อติดตามสถานการณ์ และแนวทางการดำเนินงานตามมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันโรคโควิด -19 ของจังหวัดสงขลา ซึ่งเชื่อมั่นว่าทุกภาคส่วนได้ร่วมกันปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรค พร้อมกันนี้จะประสานความร่วมมือไปยังหน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ในการลงพื้นที่สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องถึงแนวทางการปฏิบัติตัวแก่ผู้นำชุมชน และชาวบ้าน รวมถึงเตรียมความพร้อมของโรงพยาบาลสนามให้มีเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับต่อสถานการณ์การแพร่ระบาด และยืนยันว่าขณะนี้ ยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์การแพทย์มีเพียงพอที่จะดูแลผู้ป่วย แต่สิ่งต้องการที่สุดคือความร่วมมือร่วมใจของประชาชนที่จะช่วยลดการแพร่กระจายเชื้อ

          สำหรับสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของจังหวัดสงขลาในระลอกใหม่เดือนเมษายน 2564 ข้อมูล ณ วันที่  14 ตุลาคม 2564 มีผู้ป่วยสะสม จำนวน 38,069 ราย เสียชีวิตสะสม 165 ราย ขณะนี้มีผู้ป่วยนอนรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 6,081 ราย  ผู้ป่วยรักษาหายกลับบ้านแล้ว (สะสม) 31,823 ราย โดยมีผู้ป่วยรายใหม่ ในวันนี้ 594 ราย เสียชีวิตรายใหม่ 4 ราย โดยพบว่ามีแนวโน้มการพบผู้ป่วยในครอบครัวและชุมชนเพิ่มขึ้นจากกิจกรรมเสี่ยง การรวมกลุ่มภายในครอบครัว เครือญาติและชุมชน การเยี่ยมญาติ เลี้ยงสังสรรค์ งานศพและงานบุญประเพณี เป็นต้น

          ด้านการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของประชาชนจังหวัดสงขลา ได้ดำเนินการฉีดวัคซีนแล้วจำนวน 695,743 ราย คิดเป็นร้อยละ 46.78 เปอร์เซ็นต์ และในเดือนตุลาคม จังหวัดสงขลามีการเร่งรัดการฉีดวัคซีนให้ได้ครอบคลุมร้อยละ 70 ภายใต้แนวทาง “สกัดไวรัสเดือนตุลา สงขลา 3 สัปดาห์ 5 แสนคน” มีเป้าหมายการฉีดระหว่างวันที่ 13- 31 ตุลาคม 2564 วันละ 20,000 โดส เบื้องต้นสำนักงานเขตสุขภาพที่ 12 เสนอขอวัคซีนเพิ่มเติม จำนวน 1,983,000 โดสแบ่งเป็นฟรีแอเรีย 856,000 โดส ส่วนอีก 1,127,000 โดส สำหรับเป้าหมาย 70 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข จะเร่งจัดสรรวัคซีนให้ โดยพิจารณาความเหมาะสม และจำนวนผู้ติดเชื้อในพื้นที่เป็นหลัก โดยเฉพาะในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้

          ส่วนมาตรการเชิงรุก จังหวัดสงขลาได้เน้น “ลดติด ลดป่วยหนัก ลดตาย กระจายยาและวัคซีนและควบคุมโดยเร็ว” โดยให้มีการค้นหาผู้ติดเชื้อในชุมชนให้รวดเร็วและเพิ่มขึ้น และนำเข้าสู่การดูแลรักษา มีการเร่งรัดการคัดกรอง และตรวจหาเชื้อเชิงรุกในชุมชนด้วยชุดตรวจ ATK ภายใต้การสนับสนุนชุดตรวจจากกระทรวงสาธารณสุข พร้อมทั้งมีการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของโรคในโรงงานอุตสาหกรรม การดำเนินการ COVID Free Setting ซึ่งดูแลทั้งด้านสิ่งแวดล้อม ความปลอดของผู้ให้บริการ และผู้รับบริการในสถานประกอบการต่างๆ รวมทั้งการให้ความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการของจังหวัดสงขลาที่ต่อเนื่องต่อไป 

          โอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นตัวแทนในการรับมอบเตียงสนามแอร์โรคลาส จำนวน 300 เตียง, ยา ivermectin ซึ่งเป็นยาใช้ในการป้องกันและรักษาโรคโควิด-19 จำนวน 400 กล่อง, ชุด PPE จำนวน 100 ชุด และน้ำยาฆ่าเชื้อจากภาคเอกชน เพื่อส่งต่อไปยังโรงพยาบาลสนาม และศูนย์พักคอยในพื้นที่จังหวัดสงขลา

ศิริลักษณ์ แคล้วคลาด/ข่าว/ภาพ

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา 14 ต.ค. 64