ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์อุทกภัยและคลื่นลมแรงในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน ถึง ต้นเดือนธันวาคม 2566 เพื่อป้องกันและลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นให้ได้น้อยที่สุด
. วันนี้ (31 ต.ค. 66) ที่ห้องประชุม 1 ศาลากลางจังหวัดสงขลา นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานประชุมติดตามการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม ในพื้นที่ 16 อำเภอของจังหวัดสงขลาให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นให้ได้น้อยที่สุด โดยมีนายเศวต เพชรนุ้ย ปลัดจังหวัดสงขลา นางสาวสุนารี บุญชุบ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลา นางสาวสุธิดา พฤกษ์อุดม รักษาราชการแทนประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการจังหวัด เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง
. โดยในที่ประชุม ดร. กมล พรหมสาขา ณ สกลนคร ผู้อำนวยการศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ได้กล่าวว่า จากการติดตามการคาดหมายลักษณะอากาศ พบว่าช่วงหลังวันที่ 13 พฤศจิกายนนี้ ไปจนถึงต้นเดือนธันวาคม หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง หรือพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนตัวทะเลจีนใต้ตอนล่าง และมีโอกาสเคลื่อนผ่านภาคใต้ ซึ่งจะทำให้ภาคใต้มีฝนตกชุกเป็นบริเวณกว้าง โดยเฉพาะภาคใต้ฝั่งตะวันออกตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป กับจะมีฝนหนักหลายพื้นที่และหนักมากในบางแห่ง ซึ่งก่อให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ส่วนคลื่นลมในทะเลอ่าวไทยจะมีกำลังแรง บางช่วงจะมีคลื่นสูง 2 - 4 เมตร จึงขอให้ประชาชนและชาวเรือติดตามข่าวพยากรณ์อากาศและคำเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดไว้ด้วย
. ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่รับผิดชอบในแต่ละส่วนงานได้สำรวจความพร้อมของเครื่องจักรกล วัสดุ อุปกรณ์ ให้พร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา สำรวจพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก การขุดลอกคู คลอง เพื่อระบายน้ำ และให้หน่วยงานในพื้นที่สำรวจพนังกั้นน้ำ หรืออ่างเก็บน้ำว่ามีร่องรอยชำรุดหรือไม่ หากพบรอยชำรุด หรือมีความเสี่ยงไม่สามารถรองรับปริมาณน้ำได้ ให้เร่งซ่อมแซม แก้ไขอย่างเร่งด่วน พร้อมกันนี้ให้จัดเตรียมสถานที่อพยพประชาชน การเคลื่อนย้ายกลุ่มเปราะบาง การดูแลด้านเครื่องอุปโภค บริโภค และยารักษาโรคให้เพียงพอในกรณีที่น้ำท่วมสูงเป็นเวลานาน จนไม่สามารถพำนักในบ้านเรือนของตัวเองได้ รวมถึงการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้น และที่สำคัญให้จัดทีมเฝ้าระวัง ดูแลความปลอดภัยในช่วงน้ำท่วม รวมถึงดูแลบ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชนที่ถูกทิ้งไว้เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับพี่น้องประชาชน
. อีกทั้ง ยังได้เน้นย้ำให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานของกรมปศุสัตว์ ในจังหวัดสงขลา ประชาสัมพันธ์ แจ้งเตือนชาวประมงและเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์น้ำ เฝ้าระวังและรับมือสถานการณ์น้ำท่วม น้ำหลากจากฝนตกหนักในพื้นที่อย่างใกล้ชิด เนื่องจากฝนที่ตกหนักจะทำให้สภาวะอากาศ อุณหภูมิ และออกซิเจนในน้ำมีการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน อาจส่งผลให้สัตว์น้ำที่อาศัยอยู่ในธรรมชาติและที่เกษตรกรเลี้ยงไว้ในบ่อ หรือในกระชัง ปรับตัวไม่ทันและอาจตายได้อย่างฉับพลัน ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อเกษตรกรให้ได้มากที่สุด
. นอกจากนี้ ให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จังหวัดสงขลาและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ละพื้นที่ตรวจสอบจุดเสี่ยง จุดอันตรายจากกระแสไฟฟ้ารั่ว รวมถึงป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ใกล้เสาไฟฟ้า เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น พร้อมทั้งให้ดำเนินการซ่อมแซม แก้ไขให้อยู่ในสภาพที่ปลอดภัย และเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือด้านระบบไฟฟ้าแก่ประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง
ศิริลักษณ์ แคล้วคลาด/ข่าว-ภาพ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา
31 ต.ค. 66