จังหวัดสงขลา ร่วมประชุมคณะอนุกรรมาธิการด้านการคลัง วุฒิสภา รายงานความก้าวหน้าในการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ พร้อมผลักดันสู่การเป็นศูนย์กลางการค้า การลงทุน และโลจิสติกส์ของภาคใต้ เชื่อมโยงเศรษฐกิจไทย – มาเลเซีย

. วันนี้ 3 กรกฎาคม 2568 เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุม CEO ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมเพื่อนำเสนอรายงานความก้าวหน้าในการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษสงขลาต่อคณะอนุกรรมาธิการด้านการคลัง วุฒิสภา โดยมีนางสาวชญาน์นันท์ ติยะตระการชัย ประธานคณะอนุกรรมาธิการฯ เป็นประธานการประชุมผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งในการประชุมได้มีการนำเสนอข้อมูลสำคัญ อาทิ มูลค่าการลงทุนในพื้นที่ ความก้าวหน้าในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รายชื่อผู้ประกอบการที่เข้ามาลงทุน แนวทางส่งเสริมการลงทุนในอนาคต ความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงาน พร้อมข้อเสนอแนวทางการแก้ไข เพื่อผลักดันการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษสงขลาให้เกิดผลเป็นรูปธรรมและยั่งยืน

. นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า จังหวัดสงขลา ถือเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจภาคใต้ที่มีผลิตภัณฑ์มวลรวมในระดับสูง มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดี และมีมูลค่าการค้าชายแดนกับประเทศมาเลเซียสูงที่สุดในประเทศ โดยเฉพาะที่ด่านศุลกากรสะเดาและปาดังเบซาร์ ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของการค้าระหว่างประเทศ ส่งผลให้เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษสงขลามีบทบาทต่อระบบเศรษฐกิจของไทย โดยในปัจจุบันมีการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมในระยะแรกแล้วเสร็จ และอยู่ระหว่างการขยายเฟสต่อไป พร้อมการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ เช่น ถนนเชื่อมด่านชายแดน และโครงการศูนย์คมนาคมขนส่ง เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต

. สำหรับด้านการลงทุน ขณะนี้มีนักลงทุนที่ได้รับสิทธิประโยชน์จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) แล้วจำนวน 23 โครงการ รวมมูลค่าการลงทุนกว่า 9,000 ล้านบาท มีโรงงานที่ดำเนินการแล้วจำนวน 45 แห่ง และสามารถสร้างการจ้างงานในพื้นที่ได้กว่า 5,800 คน ทั้งนี้ รัฐบาลได้กำหนดแนวทางพัฒนาเมืองโดยรอบให้มีบทบาทเฉพาะด้านที่สอดคล้องกับศักยภาพพื้นที่ เช่น เทศบาลเมืองสะเดาเน้นอุตสาหกรรม เทศบาลเมืองปาดังเบซาร์เน้นวัฒนธรรมและระบบราง ส่วนตำบลสำนักขามและตำบลปาดังเป็นประตูสู่การค้า การท่องเที่ยว และโลจิสติกส์ชายแดน โดยทั้งหมดมุ่งสู่การเป็นเมืองเศรษฐกิจที่ทันสมัย ยั่งยืน และเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจระดับภูมิภาค

. อย่างไรก็ตาม จังหวัดสงขลายังพบอุปสรรคในการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ ได้แก่ การขาดศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จด้านการอนุมัติธุรกิจ (One Stop Service – OSS) การขาดแคลนแรงงานฝีมือ รวมถึงจำนวนนักลงทุนที่ยังไม่เพียงพอ จังหวัดจึงได้เสนอแนวทางการพัฒนา อาทิ การจัดตั้งศูนย์ OSS ในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจ การจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมแรงงานเฉพาะทาง และการปรับปรุงนโยบายภาครัฐให้มีความยืดหยุ่น ชัดเจน และสามารถดึงดูดภาคเอกชนให้เข้ามาลงทุนมากขึ้น เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน ลดต้นทุนการดำเนินงาน และยกระดับคุณภาพการให้บริการแก่ผู้ประกอบการ

. สำหรับการนำเสนอข้อมูลในครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อขอรับการสนับสนุนเชิงนโยบาย งบประมาณ และแนวทางแก้ไขปัญหาเชิงระบบจากคณะอนุกรรมาธิการด้านการคลัง เพื่อร่วมกันผลักดันให้พื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษสงขลากลายเป็นศูนย์กลางการค้า การลงทุน และโลจิสติกส์ที่สำคัญของภาคใต้ เชื่อมโยงเศรษฐกิจไทย–มาเลเซียได้อย่างมั่นคง แข็งแรง และยั่งยืนในอนาคต

ศิริลักษณ์/ข่าว-ภาพ

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา