จังหวัดสงขลา เดินหน้าแผนรื้อถอนเขื่อนกันคลื่นชายหาดม่วงงาม อำเภอสิงหนคร คืบหน้าแล้วร้อยละ 30 ด้านด้านรองผู้ว่าฯ สงขลาย้ำทุกฝ่ายต้องร่วมมือ เพื่อฟื้นฟูชายหาดให้กลับคืนสู่ธรรมชาติ

.

วันที่ 3 กรกฎาคม 2568 ที่ห้องประชุมสำนักงานเทศบาลเมืองม่วงงาม อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา มอบหมายให้ นายสังคม เกิดก่อ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานการประชุมคณะทำงานรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและฟื้นฟูสภาพชายหาดม่วงงาม ครั้งที่ 2 เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินการตามคำพิพากษาของศาลปกครองสงขลา โดยมี นายไมตรี สรรพสิน โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสงขลา พร้อมส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้แทนนายกเทศมนตรีตำบลม่วงงามตลอดจนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียร่วมรับฟังข้อมูล

.

การประชุมครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการดำเนินงานตามคำพิพากษาของศาลปกครอง เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2567 ที่มีคำสั่งให้ยกเลิกโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเลบ้านม่วงงาม งบประมาณ 87 ล้านบาท ของกรมโยธาธิการและผังเมือง พร้อมให้มีการรื้อถอนโครงสร้างและฟื้นฟูสภาพชายหาดให้กลับคืนสู่ธรรมชาติ ภายใน 60 วัน หลังคำพิพากษาถึงที่สุด โดยคณะทำงานได้เริ่มกระบวนการรื้อถอนตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา ในการถอนเสาเข็มจำนวน 164 ต้นที่ปักอยู่บริเวณแนวชายฝั่ง ขณะนี้ดำเนินการมาแล้ว 18 วัน คิดเป็นความคืบหน้าร้อยละ 30 และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 18 กรกฎาคม 2568 กำหนดแนวทางฟื้นฟูสภาพแวดล้อมชายหาดด้วยวิธีธรรมชาติ เพื่อให้กลับมามีความสมบูรณ์ดังเดิม และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในพื้นที่

.

อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานยังพบข้อจำกัดหลายประการ อาทิ ระดับน้ำทะเลที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ส่งผลให้การเข้าดำเนินงานยากลำบาก ลักษณะชั้นทรายที่มีค่ามุมเสียทานต่ำ ทำให้ไม่สามารถถอนเสาเข็มในแนวดิ่งได้ และรถแบคโฮไม่สามารถใช้แรงดึงเสาเข็มออกได้ จำเป็นต้องสกัดแยกส่วนคอนกรีตออกจากทรายอย่างระมัดระวัง โดยกรมโยธาธิการและผังเมืองได้เร่งรัดการดำเนินงานเต็มที่ พร้อมทั้งเก็บกวาดเศษวัสดุคอนกรีตและเหล็กออกจากพื้นที่ เพื่อนำชายหาดกลับคืนสู่ท้องถิ่นโดยเร็วที่สุด

.

นายสังคม เกิดก่อ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้เน้นย้ำการดำเนินงานร่วมระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ เทศบาลเมืองม่วงงาม สำนักงานโยธาธิการและผังเมือง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และภาคประชาสังคม โดยมีเป้าหมายในการสร้างความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และเกิดความร่วมมือในการฟื้นฟูชายหาดม่วงงามให้กลับคืนมาเป็นสมบัติของชุมชนและธรรมชาติอย่างยั่งยืน