ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเด็ก ๆ ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง อายุระหว่าง 5-11 ปี เข้ารับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ฝาสีส้ม เป็นวันที่ 2 เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันในการป้องกันโรคโควิด-19
วันนี้ (8 ก.พ. 65) ที่ห้องประชุมพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ โรงพยาบาลสงขลา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมคณะ ได้เดินทางไปให้กำลังใจกับเด็กๆ อายุ ระหว่าง 5-11 ปีที่เข้าเกณฑ์ 7 โรคเรื้อรัง ที่เดินทางมาฉีดวัคซีนไฟเซอร์ฝาสีส้ม เข็มที่ 1 จำนวน 300 คน ตามที่ได้ลงทะเบียนไว้ โดยในวันนี้เป็นการฉีดวัคซีนให้กับเด็กเป็นวันที่ 2 หลังจากที่ได้ทำการฉีดวันแรกไปแล้ว เมื่อวันศุกร์ ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 จำนวน 70 คน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็ก โดยทางโรงพยาบาลสงขลาจะทำการฉีดวัคซีนให้กับเด็กในวันนี้ที่ 8 กุมภาพันธ์ และในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 ตั้งแต่เวลา 9:00 น. ถึง 12:00 น.
นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า จังหวัดสงขลา ร่วมกับ โรงพยาบาลสงขลา และทีมงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา ได้มาฉีดวัคซีนให้กับน้องๆ กลุ่มเป้าหมายในพื้นที่จังหวัดสงขลา วันนี้เรามีเป้าหมายที่โรงพยาบาลสงขลา 100 กว่าราย รวมทั้งจังหวัดก็ประมาณ 1,000 ราย ก็อยากจะขอเชิญชวนผู้ปกครองนำบุตรหลานน้องๆทั้งหลายมารับวัคซีนให้มาก เนื่องจากว่าต่อจากนี้ไปโรงเรียนต่างๆก็จะเปิดเรียน on site ทุกช่วงชั้นต่างๆ เมื่อน้องๆ ได้รับวัคซีนก็จะเป็นการป้องกันและสามารถเข้าเรียนในช่วงเปิดเทอมใหม่ได้อย่างปลอดภัย จึงขอเชิญชวนอีกครั้งหนึ่งให้พ่อแม่ผู้ปกครองน้องๆมารับวัคซีนที่โรงพยาบาลสงขลา
จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้เดินไปให้กำลังใจเด็กๆที่กำลังฉีดวัคซีนอยู่ รวมทั้งพบปะพูดคุยกับพ่อแม่ผู้ปกครองเด็ก และขอบคุณที่นำเด็กๆ มาฉีดวัคซีน เพื่อสร้างภูมิต้านทานให้กับเด็กซึ่งเป็นบุตรหลานอันเป็นที่รักของท่าน ขณะเดียวกันก็แสดงความห่วงใย อยากจะให้พ่อแม่ผู้ปกครองนำบุตรหลานมาฉีดวัคซีนกันทุกคนเพื่อให้ก้าวผ่านวิกฤตินี้ไปด้วยกัน ด้วยการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ทั้งจังหวัดที่ครอบคลุมทุกกลุ่มอายุ
ด้านแพทย์หญิง จีราบัตร เตชะโต กุมารแพทย์ โรงพยาบาลสงขลา กล่าวว่า จังหวัดสงขลา เริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด – 19 ในกลุ่มเด็กอายุ 5 – 11 ปี ตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 โดยเริ่มฉีดให้แก่เด็กกลุ่มป่วยด้วยโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรคเป็นกลุ่มแรก ประกอบด้วย 1. โรคอ้วน BMI 35 หรือเด็กอ้วนที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากภาวะทางเดินอาหารอุดกั้น 2. โรคทางเดินอาหารเรื้อรัง รวมทั้งหอบหืดที่มีอาการรุนแรง 3. โรคหัวใจและหลอดเลือดโรคหลอดเลือดสมองโรคลมชัก 4.โรคไตวาย 5. โรคมะเร็งและภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ 6. โรคเบาหวาน 7. โรคทางพันธุกรรม ดาวน์ซินโดรม มีภาวะบกพร่องทางประสาทอย่างรุนแรง และมีพัฒนาการช้า ซึ่งกลุ่มเด็กที่เข้ารับการฉีดวัคซีนนั้นต่างได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองโดยสมัครใจ
สำหรับบรรยากาศทั่วไป จากการสังเกตการณ์การฉีดวัคซีนวัคในเด็กกลุ่มเสี่ยงที่มีโรคประจำตัว ส่วนใหญ่เด็กๆ รู้ว่าในวันนี้จะต้องเข้ารับวัคซีนโควิด-19 จึงได้เตรียมตัวเตรียมใจมาเป็นอย่างดี แต่ก็ยังมีบางรายที่มีอาการประหม่ากลัวเข็มฉีดยาอยู่บ้าง แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี โดยมีพี่ๆ พยาบาลคอยปลอบและให้กำลังใจ
.
ศิริลักษณ์ แคล้วคลาด/ข่าว
ประชา-วรามิตร-โรงพยาบาลสงขลา/ภาพ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา 8 ก.พ. 65