จังหวัดสงขลาสำรวจเกาะหนู พร้อมผลักดันเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ตอกย้ำภาพลักษณ์ “เสน่ห์สงขลา” เสริมศักยภาพท่องเที่ยวชุมชน..//
.
“เกาะหนู” เกาะเล็ก ๆ ในทะเลสาบสงขลา ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลนครสงขลา อ.เมืองสงขลา จ.สงขลา ปัจจุบันกลายเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญของการเดินทางมาท่องเที่ยวยังจังหวัดสงขลา เนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากชายฝั่งใช้เวลานั่งเรือเพียง 15 นาที ก็สามารถนำเรือเข้าเทียบท่าให้นักท่องเที่ยวได้ลงไปสัมผัสกับธรรมชาติอันสวยงามแปลกตา ซึ่งปัจจุบันชาวบ้านในพื้นที่ ต.หัวเขา อ.สิงหนคร ได้ใช้เวลาว่างหลังทำประมงลงทุนซื้อเรือหัวโทงเขียนลวดลายกอและสวยงามพัฒนาเป็นเรือนำเที่ยว สร้างรายได้อย่างงดงาม
.
(23 พฤษภาคม 2568) นายจิรวัตร์ มณีโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา (ดูแลงานด้านการท่องเที่ยว) และนายสังคม เกิดก่อ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา (ดูแลงานด้านความมั่นคง) นำหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องลงเรือตรวจการณ์ประมงทะเล ออกตรวจสอบความสงบเรียบร้อยบริเวณน่านน้ำทะเลสาบสงขลาในพื้นที่รับผิดชอบ และเข้าเทียบท่าสำรวจพื้นที่เกาะหนู ปรากฏว่า มีเรือนำเที่ยวพานักท่องเที่ยวหลายสิบชีวิต เดินทางมาเที่ยวชมถ่ายภาพเก็บความประทับใจที่เกาะหนูอย่างไม่ขาดสาย
.
จากการพูดคุยกับ นายสิริชัย พิไลกุล หรือบังกี หนึ่งในสมาชิกวิสาหกิจชุมชนบ้านทะเลนอก ต.หัวเขา อ.สิงหนคร จ.สงขลา ไกด์ท้องถิ่น บอกว่า ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมานักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาเที่ยวเกาะหนูมากขึ้น ส่วนใหญ่เห็นกระแสจากโซเชียลมีเดียว่าเกาะหนูสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้ ชาวบ้านชุมชนหัวเขาจึงรวมกลุ่มกันจดทะเบียนภายใต้ชื่อ วิสาหกิจชุมชนบ้านทะเลนอก ต.หัวเขา อ.สิงหนคร จ.สงขลา เพื่อพัฒนาเป็นเครือข่ายท่องเที่ยวชุมชน สร้างรายได้ให้ครอบครัวนอกเหนือจากรายได้หลักคือการทำประมง ขณะนี้ทางกลุ่มมีเรือให้บริการนักท่องเที่ยวอยู่จำนวน 15 ลำ ให้บริการนักท่องเที่ยววันละ 2 รอบ คือ รอบเช้าเวลา 08.00 - 13.00 น. และรอบบ่ายเวลา 13.30 - 17.00 น. คิดค่าบริการเป็นรายหัว ๆ ละ 250 บาท โดยนักท่องเที่ยวจะนิยมรวมกลุ่มกันเดินทางมาท่องเที่ยวในช่วงวันหยุด เสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เฉลี่ยแล้วอยู่ที่ประมาณวันละ 200 คน ส่วนวันธรรมดาจะอยู่ที่วันละกว่า 100 คน ทริปการท่องเที่ยวจะพาเที่ยวสองเกาะเริ่มจากถ่ายภาพที่เกาะหนู โพสต์ท่าสวย ๆ กับผาชมพู (ซึ่งมีลักษณะเป็นหน้าผาหิน และลานหินสีชมพูแปลกตาตามที่ธรรมชาติได้รังสรรค์ไว้) จากนั้นคอยปีนผาขึ้นไปชมวิว ยังจุดชมวิวจุดสูงสุดของเกาะหนู สามารถหมุนตัวชมวิวทะเลสาบสงขลาได้แบบ 360 องศา หรือจะลงน้ำล่องเข้าไปในถ้ำมรกต เพื่อไปดูลักษณะชั้นหินภายในก็น่าตื่นเต้นไปอีกแบบ ขึ้นจากเกาะหนูก็สามารถนั่งเรือต่อไปยังเกาะแมว ซึ่งเป็นจุดชมดำน้ำชมปะการังน้ำตื้น มีทั้งปะการังใบ ปะการังสมอง และหากโชคดีก็จะเจอโลมาสีชมพู (โลมาปากขวด) มากระโดดน้ำอวดโฉมให้ชมด้วย
.
ทั้งนี้ เรื่องความปลอดภัยทาง วิสาหกิจชุมชนบ้านทะเลนอก ต.หัวเขา เผยว่า ไกด์ท้องถิ่นทั้งหมดของกลุ่มเป็นชาวบ้านในพื้นที่ซึ่งเป็นชาวประมงซึ่งรู้จักพื้นที่ มีความเชี่ยวชาญร่องน้ำเป็นอย่างดี ส่วนการทำท่องเที่ยวชุมชนนั้นทางกลุ่มได้จดทะเบียนเป็นที่เรียบร้อย เรือที่ใช้นำเที่ยวก็มีการขึ้นทะเบียนเรือ ไกด์และลูกเรือได้รับอบรมมาเป็นอย่าง นักท่องเที่ยวทุกคนต้องสวมเสื้อชูชีพขณะอยู่บนเรือ ราคาต่อหัว 250 บาท รวมค่าทำประกันภัยให้กับนักท่องเที่ยว/ อุปกรณ์ดำน้ำ/ และน้ำดื่มแล้ว แต่หากอยากพายคายัคจะคิดเพิ่มลำละ 200 บาท พายได้ 2 คน เเนะนำว่าช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะเดินทางไปเที่ยว คือ รอบเช้า เที่ยวได้ตั้งแต่เดือนเมษายนไปจนปลายตุลาคม ส่วนช่วงไหนที่มีมรสุม หรือได้รับแจ้งเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยา ทางกลุ่มก็จะไม่รับนักท่องเที่ยวอยู่แล้วเพื่อความปลอดภัย
.
นายจิรวัตร์ มณีโชติ และนายสังคม เกิดก่อ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เผยว่า นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เดินทางมาเหยียบเกาะหนู ต้องมาบอกเป็นเกาะเล็ก ๆ ที่มีความอุดมสมบูรณ์สวยงามและยังคงความเป็นธรรมชาติเอาไว้ นับว่านี่เป็นอีกหนึ่งศักยภาพของจังหวัดสงขลาที่จังหวัดสงขลาจะเร่งผลักดันส่งเสริม ซึ่งก็เป็นไปตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทย และแนวทางการขับเคลื่อนยกระดับท่องเที่ยวชุมชนของ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ที่ต้องการเห็นความเข้มแข็งของชุมชนท่องเที่ยว ทำให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพคนในท้องถิ่นมีรายได้เพิ่มขึ้น มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยหลังจากนี้จังหวัดสงขลาก็จะได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผนึกกำลังเดินหน้าขับเคลื่อนส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะหนู-เกาะแมวอย่างจริงจัง แต่สำคัญที่สุด 2 เรื่องที่ต้องดำเนินไปคู่กัน คือ 1 เรื่องการเพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยว เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น และ 2 การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ Go-Green ซึ่งทั้งนักท่องเที่ยว ผู้ประกอบการ ชุมชน รวมถึงภาคราชการต้องเข้ามาดูแลเรื่องนี้อย่างจริงจัง ขยะต้องห้ามนำขึ้นมาบนเกาะ หรือหากมีขยะที่มาจากทะเลก็ต้องช่วยกันจัดเก็บ เพื่อให้เกาะหนู-เกาะแมว ของจังหวัดสงขลากลายเป็นแลนด์มาร์กใหม่ที่ใคร ๆ ก็อยากมาเยือน
.
สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจเดินทางไปเที่ยวเกาะหนู-เกาะแมว ติดต่อไปได้ที่ บังกี เพจ “เที่ยวเกาะหนู-เกาะแมว” โทรศัพท์ 061-7959597 ราคา 250 บาท/คน...//
.
ข่าว - ภาพ / สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา
23 พฤษภาคม 2568