จังหวัดสงขลา เข้าร่วมประชุมกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เตรียมความพร้อมรับมืออุทกภัยฤดูฝน ปี 2568 เน้นบูรณาการทุกภาคส่วน เฝ้าระวัง แจ้งเตือนภัย อพยพประชาชน และฟื้นฟูช่วยเหลือหลังเกิดเหตุอย่างเป็นระบบ

. วันนี้ (16 มิถุนายน 2568) ที่ห้องประชุม Conference ศาลากลางจังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา หัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนหน่วยงาน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์อุทกภัยในช่วงฤดูฝน และติดตามการฝึกซ้อมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประจำปี 2568 โดยมีนายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ทางไกล ณ ห้องประชุม 1 อาคาร 3 ชั้น 5 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กรุงเทพมหานคร

. ในการประชุม นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยให้ความสำคัญกับการเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์ การแจ้งเตือนภัย และการเตรียมความพร้อมรับมืออุทกภัยไว้ล่วงหน้า โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร บูรณาการการทำงานร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2568 อย่างครอบคลุมในทุกมิติ เพื่อลดความเสี่ยงและความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนให้ได้มากที่สุด

. ที่ประชุมได้กำหนดแนวทางการดำเนินงาน โดยให้เตรียมความพร้อมก่อนเกิดเหตุ ได้แก่ การเฝ้าระวังและแจ้งเตือนภัยอย่างใกล้ชิดในพื้นที่เสี่ยง การจัดเตรียมแผนเผชิญเหตุ การแบ่งมอบภารกิจและพื้นที่รับผิดชอบอย่างชัดเจน การเตรียมแผนอพยพประชาชน การจัดการพื้นที่รองรับน้ำ เช่น การขุดลอกคูคลอง กำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ รวมทั้งเตรียมความพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัย และการตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของอ่างเก็บน้ำ ฝาย และพนังกั้นน้ำ เพื่อรองรับปริมาณน้ำฝนที่อาจตกหนัก

. ในกรณีที่เกิดเหตุ ให้บริหารสถานการณ์ผ่านศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในระดับจังหวัด อำเภอ และศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นกลไกหลักในการควบคุม สั่งการ และประสานงาน พร้อมจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวที่มีมาตรฐาน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐาน จัดโรงครัวกลางสำหรับประกอบอาหาร ช่วยเหลือผู้ประสบภัย แจกถุงยังชีพที่ได้มาตรฐาน พร้อมดูแลสุขภาพกายและจิตใจของผู้ประสบภัย ตลอดจนดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย และป้องกันการโจรกรรมในพื้นที่อพยพ

. ด้านการใช้งบประมาณให้ความช่วยเหลือ ให้ใช้งบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นลำดับแรก หากไม่เพียงพอให้รีบประสานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด หรืออธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อขอรับการสนับสนุนโดยเร็ว สำหรับการฟื้นฟูหลังเกิดภัย ให้เร่งสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งในส่วนของชีวิต ทรัพย์สิน การเกษตร และโครงสร้างพื้นฐาน พร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างถูกต้องตามระเบียบ หลักเกณฑ์ และแนวทางที่กำหนด

. ในส่วนของการสร้างการรับรู้แก่ประชาชน ให้ใช้กลไกในพื้นที่ ได้แก่ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน เป็นช่องทางสื่อสารหลัก รวมถึงประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อหลากหลายรูปแบบ เช่น หอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน โซเชียลมีเดีย และแอปพลิเคชันแจ้งเตือนภัย ได้แก่ “THAI DISASTER ALERT” ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย, “ThaiWater” ของสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (สสน.) และ “เช็คน้ำ” ของสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) เพื่อให้ประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์และเตรียมรับมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรม

ศิริลักษณ์/ข่าว

ธีรธรรม/ภาพ

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา

16 มิ.ย. 68