ผวจ.สงขลา ลั่นฆ้องเปิดงานสมโภชศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ครบรอบ 183 ปี สืบสานวัฒนธรรมไทย - จีน สร้างความศรัทธาและความภาคภูมิใจแก่ประชาชน พร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจ – ท่องเที่ยวคึกคักทั่วย่านเมืองเก่าสงขลา
. วันนี้ (17 มิถุนายน 2568) เวลา 18.00 น. ดร.โชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธีเปิดงานสมโภชศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลา ครบรอบ 183 ปี ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17 – 24 มิถุนายน 2568 ณ ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลา ย่านเมืองเก่า เพื่อสืบสานประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงามของชาวไทยเชื้อสายจีนให้คงอยู่ ควบคู่กับการส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในพื้นที่ โดยมีนายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายวันชัย ปริญญาศิริ นายกเทศมนตรีนครสงขลา นายอำนวย พิณสุวรรณ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา นายเอนก แซ่ตั้ง ผู้ตรวจตราศาลเจ้า ตลอดจนคณะกรรมการจัดงาน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีน และนักท่องเที่ยวเข้าร่วมอย่างคึกคัก ณ บริเวณถนนนางงาม ตำบลบ่อยาง อำเภอเมืองสงขลา
. จังหวัดสงขลา องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เทศบาลนครสงขลา คณะกรรมการศาลเจ้าหลักเมืองสงขลาและ องค์กรภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ได้ร่วมกันจัดงานสมโภชเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลาขึ้นทุกปี เพื่อให้ประชาชนในจังหวัดและพื้นที่ใกล้เคียงได้ร่วมสักการะเจ้าพ่อหลักเมือง พร้อมสัมผัสคุณค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเมืองเก่าสงขลา โดยภายหลังพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาได้ประกอบพิธีสักการะฟ้าดินและเจ้าพ่อหลักเมือง ก่อนเข้าสู่พิธียกเสาโกเต็ง (เสาเทวดา) ซึ่งเป็นหนึ่งในพิธีกรรมสำคัญของงานสมโภช โดยมีประชาชนร่วมแรงร่วมใจช่วยกันยกเสาไม้ไผ่ความยาว 17.50 เมตร ขึ้นอย่างพร้อมเพรียง
. บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างคึกคัก ท่ามกลางการประดับประดาโคมไฟจีนสีแดงสวยงามทั่วพื้นที่ศาลเจ้าและย่านเมืองเก่า พร้อมกิจกรรมที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาทิ พิธียกเสาโกเต็ง กิจกรรมการกุศล “อิ่มท้อง อิ่มบุญ เก้าห้อง 9 บาท” ณ ลานเปิดฟ้ากวนอู เพื่อสมทบทุนจัดซื้อรถเข็นสำหรับผู้สูงวัยและผู้ด้อยโอกาส พิธีเวียนเทียนสะเดาะเคราะห์ พิธีอัญเชิญองค์พระประทับเกี้ยว พิธีแห่องค์เทพหรืออิ้วเก้งรอบเมือง และพิธีกราบไหว้เนื่องในวันคล้ายวันประสูติเจ้าพ่อหลักเมือง นอกจากนี้ยังมีการแสดงศิลปวัฒนธรรมจีน เช่น อุปรากรจีน งิ้ว เอ็งกอ ควบคู่กับการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยอย่างโขนและมโนราห์ รวมถึงการจำหน่ายอาหารพื้นเมืองและสินค้าชุมชนที่สร้างสีสันและความประทับใจให้แก่ผู้ร่วมงานตลอดระยะเวลาการจัดงาน 8 วันเต็ม
. สำหรับศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลา ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวไทยเชื้อสายจีนในจังหวัดสงขลาและพื้นที่ใกล้เคียง ตามความเชื่อได้มีการอัญเชิญองค์เทพ “เสี่ยงฮ๋องเหล่าเอี๋ย” มาประดิษฐานไว้ด้านหลังเสาหลักเมือง เพื่อเป็นองค์เจ้าพ่อหลักเมือง คอยปกปักรักษาบ้านเมืองให้สงบสุข โดยผู้มากราบไหว้มักประสบความสำเร็จในสิ่งที่ตั้งใจ เชื่อกันว่าเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตและครอบครัว
ศิริลักษณ์/ข่าว
ธีรธรรม/ภาพ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา